เก้าปีไม่มีแชมป์ลีก วู้ดเวิร์ดพ้นรองปธ.บริหารแมนยูทางการ

เก้าปีไม่มีแชมป์ลีก เอ็ด วู้ดเวิร์ด ลุกออกมาจากเก้าอี้ตัวสำคัญของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างเป็นทางการแล้วตอนวันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์

เก้าปีไม่มีแชมป์ลีก หลังอยู่ในตำแหน่งมานานเก้าปี วู้ดเวิร์ด วัย 50 ปีเข้ามาเป็นบอร์ดของ ผีแดง เมื่อปี 2005

แล้วก็มีหน้าที่สำคัญต่อการเทคโอเวอร์สมาคมของตระกูลเกลเซอร์ ก่อนขยับมารับบทรองประธานบริหารแทน เดวิด กิลล์ ซึ่งสละเก้าอี้ในปี 2013

ตลอดเวลาเก้าปีในตำแหน่งดังกล่าว วู้ดเวิร์ด ประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านการตลาดโดยการทำผลกำไรให้กับสมาคมได้อย่างสม่ำเสมอ แล้วก็ทำให้กลุ่มเพิ่มราคาได้มากถึงสามเท่าจาก 800 ล้านปอนด์เมื่อปี 2005 มาเป็น 2.4พันล้านปอนด์ในตอนนี้

กระนั้นดีแล้ว ในสมัยที่ วู้ดเวิร์ด ทำหน้าที่ซีอีโอของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งตรงกับตอนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่าวลาอาชีพผู้จัดการทีมพอดิบพอดี ปรากฏว่า ผีแดง ไม่เคยได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก อีกเลยโดย เดวิด มอยส์ ล้มเหลว https://www.georgiasportsdawg.com

ตอนที่ หลุยส์ ฟาน กัล ได้แชมป์ เอฟเอคัพ ส่วน โชเซ่ มูรินโญ่ ได้แชมป์ ลีกคัพ แล้วก็ ยูโรปาลีก ในปี 2017 แล้วก็และก็ตามด้วย โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งถูกปลดข้างหลังไม่มีแชมป์ติดมือ

ในเวลาเดียวกันนี้ วู้ดเวิร์ด ยังถูกแฟนบอลจู่โจมประเด็นการเซ็นสัญญากับนักฟุตบอลได้อย่างเลวร้ายหลายราย

อีกทั้ง มารูยาน เฟลไลนี่ , อังเคล ดิ มาเรีย , เมฟิส เดอปาย , เฟร็ด และก็ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซี่งล้วนแต่มีค่าตัวแพงเกินจริง

จนกระทั่งท้ายที่สุด ความสัมพันธ์ระหว่าง วู้ดเวิร์ด กับ แฟนบอล เร้ด อาร์มี่ ก็ขาดสะบั้นภายหลังจากเขาเป็นเลิศในแกนนำแอบริเริ่มตั้งขึ้น ยูโรเปี้ยนซูเปอร์ลีก ร่วมกับหลายชมรมใหญ่ของยุโรปเมื่อปีก่อน

รวมทั้งถูกต้านทานอย่างมากกระทั่งแผนดังกล่าวมาแล้วข้างต้นล้มคว่ำไม่เป็นท่าอย่างเร็ว รวมทั้งนำมาซึ่งการทำให้เขาประกาศว่าจะสละเก้าอี้ในวันที่ 31 เดือนมกราคมโดยที่ ริชาร์ด อาร์โนลด์ กรรมการผู้จัดการจะขยับขึ้นมาสานงานแทนทันที บ้านผลบอลวันนี้

“ผมยินดีที่ได้รับใช้ แมนฯ ยูไนเต็ด รวมทั้งนับเป็นเกียรติที่ได้ดำเนินการให้กับสมาพันธ์บอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมานาน 16 ปี” วู้ดเวิร์ด เปิดเผยข้างหลังลุกจากเก้าอี้ แต่ว่าจะล่ำลา โอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างสมบูรณ์แบบในเดือนเม.ย.

“ชมรมอยู่ในสถานภาพมีอนาคตที่ดี ผมมีความจำเวลาที่พวกเราได้แชมป์ ยูโรปาลีก เอฟเอคัพ และก็ลีกคัพ”

“พวกเราลงทุนเกินกว่า 1พันล้านปอนด์ในช่วงเวลาของผม และก็ผมดีอกดีใจที่ได้มองเห็นความก้าวหน้าของนักฟุตบอลในสมัยของ โอเล่ กุนท้องนาร์ โซลชา และก็คณะทำงานของเขาในรอบสองปีที่ล่วงเลยไป”

ด้าน อาร์โนลด์ ซีอีโอคนใหม่ได้เอ่ยว่า”ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้โอกาสได้รับใช้สมาพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่นี้ รวมทั้งแฟนบอลของพวกเขา ผมขมักเขม้นที่จะพาทีมคว้าเกียรติให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะสามารถทำเป็น”

ภายหลังจากเคยมีข่าวโคมลอยว่า เอ็ด วู้ดเวิร์ด ตระเตรียมที่จะรับงานที่ปรึกษาให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อ ตอนหลังกล่าวลาตำแหน่งรองประธานบริหารของกลุ่ม

จนถึงทำให้แฟยลอล “ปีศาจแดง” หลายคนไม่ปลาบปลื้มแล้วนั้น ปัจจุบันมันก็มีการกล่าวมาว่า วู้ดเวิร์ด จะมิได้ปฏิบัติงานในตำแหน่งไหนกับกลุ่มต่อแน่ๆเมื่อถึงเวลาที่เขาส่งหน้าที่ของตนให้กับ ริชาร์ด อาร์โนลด์ อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์นี้ อาจบอกลาแมนยู

ถึงแม้ที่ผ่านมาชื่อตำแหน่งของ วู้ดเวิร์ด จะเป็น “รองประธานบริหาร” แต่ว่าหลายๆคนทราบดีว่าอำนาจที่เขามีอยู่ในมือนั้นมันอยู่ในระดับเดียวกับ “ประธานบริหาร” จากการที่เขาสามารถระบุวิถีทางรวมทั้งหลักการต่างๆของสมาคมได้

โดยเขาก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแม่งานของกลุ่มตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา แม้กระนั้น “เร้ด อาร์มี่” โดยมากคิดว่าเขาทำผลงานได้น่าผิดหวัง ด้วยการที่ให้ความใส่ใจกับเงินมากยิ่งกว่าผลงานในสนามมากเกินไป

เนื่องในโอกาสพิเศษนี้ วันนี้พวกเราเลยมีเกร็ดบางสิ่งบางอย่างของ วู้ดเวิร์ด ในขณะที่เขาดำเนินการให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด สักหน่อย รวมทั้งพวกเราขอปลดปล่อยให้ทุกคนวินิจฉัยกันเอาเองว่าเขาดำเนินงานได้คุ้มกับที่ได้รับเงินเดือน 21 ล้านปอนด์ไหม

อย่างที่รู้กันดีว่านับตั้งแต่ที่หมดยุคหมดสมัยของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รวมทั้ง เดวิด กิลล์ แล้วนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ใช้เงินไปกับการช็อปพ่อค้าลำแข้งเยอะแยะ ไม่ว่าจะด้วยกับนักฟุตบอลที่เป็นจุดมุ่งหมายของบอร์ดบริหาร

หรือจุดมุ่งหมายของผู้ที่เป็นที่ปรึกษาเวลานี้ๆเอง ทำให้โดยรวมแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้เงินไปกับการซื้อนักฟุตบอลถึงราว 1.1 พันล้านปอนด์ นับจากปี 2013 เป็นต้นมา

ในบรรดานักฟุตบอลที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ดึงมาร่วมทีมในช่วงดังกล่าวนั้น แม้วัดกันที่จำนวนเงินเพียวๆมิได้มองดูถึงค่าเงินในแต่ละช่วงแล้วล่ะก็ ปอล ป็อกบา ก็ถือว่าเป็นการเสริมกองทัพที่แพงที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในสมัยที่มี วู้ดเวิร์ด เป็นแม่งาน

จากการที่เขามีค่าตัว 89 ล้านปอนด์ ตามมาด้วย แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่มีค่าตัว 85 ล้านปอนด์ โดยชั้น 3 เป็นของ โรเมลู ลูกากู ที่ทำให้กลุ่มเสียค่าตัวไป 75 ล้านปอนด์ ส่วน เจดอน ซานโช่ ตามมาเป็นที่ 4 ด้วยค่าตอบแทน 73 ล้านปอนด์ ระหว่างที่ อังเคล ดิ มาเรีย ครอบครองที่ 5 ด้วยค่าตอบแทน 59.7 ล้านปอนด์